วันพุธที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2555

จงอย่าหยุดคิดริเริ่มสร้างสรรค์

จงอย่าหยุดคิดริเริ่มสร้างสรรค์
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
นักปรัชญาชาวจีนผู้หนึ่งกล่าวไว้ว่า “ทุกวันเป็นวันใหม่ แม้แต่ปลายังไม่ว่ายน้ำอยู่ที่เดิม” จากคำกล่าวนี้ ทำให้เรารู้ว่า 
                โลกนี้มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปทุกๆ วัน  ก็เนื่องจากเกิดสิ่ง แปลกๆ ใหม่ๆ ขึ้นมาตลอดเวลา การที่เกิดสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ ตลอดเวลา  ก็เนื่องมาจากปัจจัยหนึ่งก็คือความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของมนุษย์เรานั่น เอง
-                    สตีฟ จอบส์ เป็นตัวอย่างที่ดีมากๆ เกี่ยวกับการคิดริเริ่มสร้างสรรค์ สิ่งใหม่ๆ ของบริษัท Apple ซึ่งเขาและ
ทีมงานได้คิดค้น ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ท้องตลาด จนคนใช้กันทั่วโลก เขาได้กล่าวสุนทรพจน์ให้แก่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ไว้เป็นประโยคสุดท้ายเพื่อฝากไว้ให้คิดและปฏิบัติตาม ซึ่งเขาก็ได้ยึดหลักการนี้และนำเอาไปใช้คือ “ จงหิวโหยอยู่เสมอ จงโง่เขลาอยู่เสมอ ”  นั่นหมายถึงว่า จงรักที่จะเรียนรู้อย่างตลอดเวลา คิดริเริ่มสร้างสรรค์ สิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลานั้นเอง
-                    โทมัส แอลวา เอดิสัน (Thomas Alva Edison) และทีมงาน ได้คิดค้นและจดทะเบียนลิขสิทธิ์สิ่งประดิษฐ์เป็น
จำนวน 1,093 ชนิด ในสหรัฐอเมริกาและรวมกับทั่วโลกอีกกว่า 3,000  ชนิด ก็ด้วยเกิดจากความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
-                    อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เป็นตัวอย่างได้ดีในเรื่องความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ หากอาจารย์เอาแต่วาดรูป ก็
ได้แค่สร้าง หอศิลป์ ในแก่ตัวเองซึ่งมีคุณค่าและสร้างความยิ่งใหญ่ให้ตนเองน้อยมาก  อาจารย์จึงมีความริเริ่มสร้างสรรค์ตลอดเวลาโดยการสร้าง สถาปัตยกรรม ประติมากรรม ที่ยิ่งใหญ่ ดังเช่น วัดร่องขุ่น  ซึ่งเป็นวัดสมัยใหม่ สวยงาม มีความหมายในเชิงพุทธศาสนา
                 การคิดสร้างสรรค์ จะทำให้เราได้วิธีการใหม่ๆ หรือเรียกว่าได้ “ ไอเดียใหม่” ซึ่งการคิดสร้างสรรค์นี้ เราทุกคนมีเหมือนกัน อีกทั้งเรายังสามารถสร้างขึ้นมาได้ แต่มันไม่ทำงานเนื่องจากพวกเราไม่ได้มีโอกาสได้นำมันมาใช้หรือไม่พยายามใช้ มันนั้นเอง ฉะนั้นหากต้องการใช้มันในบางครั้งเราอาจจะต้องสร้างเงื่อนไขที่จะให้มันทำ งาน เช่น ในการอบรม การประชุม ในการทำงาน หากให้องค์กรหรือหน่วยงาน ต้องการให้คนออกความคิดเห็นที่สร้างสรรค์หรือให้นโยบายบอกให้สร้างสรรค์ งานออกมาให้ได้ กระผมเชื่อว่าหลายๆคน สามารถนำความคิดสร้างสรรค์ออกมาใช้ได้
                ดังคำพูดของ มัทธิว 7:7.8 ในคัมภีร์ไบเบิ้ล กล่าวไว้ว่า “ จงขอแล้วจะได้   จงหาแล้วจะพบ  จงเคาะแล้วจะเปิดให้แก่ท่าน ”  ดังนั้นหากท่านต้องการความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ จงขอแล้วท่านจะได้  จงแสวงหาแล้วท่านจะพบมัน จงเคาะแล้วสวรรค์ก็จะเปิดทางให้แก่ท่าน
                แต่ในทางกลับกัน สังคมไทย มักเป็นสังคมที่ไม่ค่อยมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ แต่เป็นสังคมที่คัดลอก เลียนแบบ กัน ซึ่งบางกรณีถือว่าเป็นการผิดกฎหมายลิขสิทธิ์อีกด้วย
                สำหรับปัจจัยที่ทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์มีด้วยกันหลายปัจจัย เช่น
  1. การคิดในแง่บวก, พูดบวก(เป็นไปได้,ทำได้) ความคิดและคำพูดเหล่านี้จะทำให้เราเกิดกำลังใจ และควรหลีกเลี่ยงความคิดในแง่ลบ,พูดลบ (การคิดว่าเป็นไปไม่ได้ , ทำไม่ได้ )  ความคิดและคำพูดเหล่านี้จะทำให้เกิดการบันทอนกำลังใจของเรา
  2. จงคิดแตกต่างจากคนอื่นดูบ้าง  สังคมไทยเป็นสังคมที่ไม่กล้าทำอะไรที่แตกต่างหรือโดดเด่นจากคนอื่น อาจเนื่องมาจากหลายสาเหตุ เช่นเกิดความกลัวต่างๆ ดังคำกล่าวที่ว่า “ อันความจริงคนเขาก็อยากให้เราดี แต่เราเด่นขึ้นทุกที คนเขาก็หมั่นไส้ จงทำดีอย่าเด่นจะเป็นภัย ไม่มีใครอยากเห็นเราเด่นเกิน ” คำกล่าวนี้ทำให้คนไทย มักทำอะไรตามๆ กัน เพื่อไม่ให้ตนเองเกิดความแตกต่างหรือเด่นเกินชาวบ้าน แต่ความคิดดังกล่าว เป็นความคิดที่ขัดขว้างความคิดที่ทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ขึ้น
  3. แสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆ จากที่ต่างๆ การเปิดใจกว้างรับสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ จะทำให้ท่านเกิดประสบการณ์ที่ดีและมีความคิดเชิงสร้างสรรค์ขึ้น นักธุรกิจ นักฝึกอบรม จำนวนมาก มักนำสินค้าหรือหลักสูตรการฝึกอบรม ที่แปลกๆ ใหม่ๆ จากต่างประเทศเข้ามาขาย แล้วจึงประสบความสำเร็จ ร่ำรวย ขึ้นมา
  4. ต้องอดทนรอคอยความสำเร็จ ความคิดสร้างสรรค์ เป็นความคิดที่ต้องอาศัยเวลา คนที่ไม่ประสบความสำเร็จบางคน มักไม่มีความอดทนรอคอย จึงล้มเลิกไปเสียก่อน ที่ความคิดสร้างสรรค์ดีๆ จะออกมา
ปัจจัยเหล่านี้ เป็นปัจจัยหนึ่งของคนที่ต้องการมีความคิดสร้างสรรค์ หากท่านต้องการมีความคิดริเริ่ม
สร้างสรรค์ ท่านก็ควรฝึกฝนตนเอง อีกทั้งควรศึกษาและเรียนรู้เพิ่มเติม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น